ถ้าถามว่า “วันสำคัญด้านสาธารณสุขระดับโลกที่ทุกประเทศต้องหยุดคิดและทบทวนตัวเอง” วันหนึ่งนั้นก็คือ วันเอดส์โลก ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี และสำหรับปี 2568 นี้ วันเอดส์โลกมีความหมายมากกว่าที่เคย ไม่ใช่แค่การระลึกถึง แต่คือ “การเดินหน้าสู่การยุติปัญหาเอชไอวีภายในปี 2573” ด้วยเป้าหมายใหญ่ 3 ข้อ คือ ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา ฟังดูเหมือนเป็นเป้าหมายระดับโลก แต่ความจริงคือ ประเทศไทยกำลังเข้าใกล้สิ่งนี้มากขึ้นทุกปี บทความนี้จะเล่าให้คุณฟังแบบเข้าใจง่ายว่า ทำไมปี 2573 ถึงสำคัญ? ทำไมวันเอดส์โลกปีนี้จึงควรสนใจมากเป็นพิเศษ? และเราทุกคนสามารถช่วยให้ประเทศเดินสู่เป้าหมายนี้ได้อย่างไร?
ทำไมปี 2573 ถึงเป็นหมุดหมายสำคัญของ วันเอดส์โลก ?
เพราะองค์การสหประชาชาติ (UNAIDS) ตั้งเป้าให้โลก “ยุติปัญหาเอดส์เป็นสาธารณสุข” ให้ได้ภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573)
สำหรับประเทศไทย เป้าหมายนี้หมายถึง…
ลดผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้เหลือน้อยกว่า 1,000 ราย/ปี
ลดการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนให้ต่ำกว่า 4,000 ราย/ปี
ลด การตีตราเลือกปฏิบัติ ให้เหลือน้อยที่สุด
ประเด็นสำคัญคือ “การติดเชื้อเอชไอวีไม่ใช่เรื่องจบชีวิตอีกต่อไป” แต่คือภาวะเรื้อรังที่ “ควบคุมได้” และหากรักษาต่อเนื่องจน ตรวจไม่พบ (U=U) ก็จะ ไม่แพร่เชื้อ อีกเลย วันเอดส์โลกจึงไม่ใช่วันไว้โศกเศร้า แต่เป็น วันแห่งความหวัง ที่เรากำลังเดินไปสู่สังคมที่ปลอดภัยขึ้น เท่าเทียมขึ้น และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ภาพรวมสถานการณ์เอชไอวีในไทย (ข้อมูลล่าสุดที่ควรรู้)
เพื่อเข้าใจว่าประเทศไทยอยู่จุดไหนแล้ว มาดู “ตัวเลขจริง” กันก่อน:
ส่วนตัวเลขสำคัญที่ชวนยิ้มคือ
ผู้ติดเชื้อจำนวนมากเข้าถึงการรักษาเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก และคนส่วนใหญ่ที่กินยาต่อเนื่อง → ตรวจไม่พบภายใน 6 เดือน นั่นหมายความว่า ไม่แพร่เชื้อ และนี่คือหัวใจสำคัญของเป้าหมาย “ไม่ติด–ไม่ตาย–ไม่ตีตรา”
ไม่ติด: ทำให้การติดเชื้อใหม่ลดลงได้จริงหรือ?
คำตอบคือ “ทำได้” และกำลังเกิดขึ้นจริง
กุญแจสำคัญคือ “การป้องกัน” ซึ่งในไทยมีให้แบบ ฟรีจริง ๆ ได้แก่:
ถุงยางอนามัย
PrEP (ป้องกันก่อนเสี่ยง)
PEP (หลังเสี่ยงภายใน 72 ชั่วโมง)
นอกจากนี้ยังมีการสื่อสารมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น นิยมมากขึ้นในกลุ่ม LGBTQ+ และเข้าถึงง่ายขึ้นเพราะมีคลินิกชุมชนและบริการออนไลน์มากมาย
วิธีป้องกันแบบรายวัน
ถุงยางอนามัย
สารหล่อลื่น
การสื่อสารกับคู่รัก
วิธีป้องกันแบบทางการแพทย์
PrEP
PEP
วิธีป้องกันระดับชุมชน
รีวิวความรู้ในโรงเรียน
ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
ลดการตีตรา
การป้องกันไม่ใช่หน้าที่ของใครคนเดียว แต่เป็น เรื่องที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้
ไม่ตาย: U=U เปลี่ยนชีวิตคนทั้งโลกได้อย่างไร?
นี่คือหัวใจสำคัญของยุคใหม่ของงานเอดส์ U = U (Undetectable = Untransmittable) แปลตรงตัวว่า ตรวจไม่พบ = ไม่แพร่เชื้อ ผู้ติดเชื้อที่กินยาต้านไวรัส (ARV) สม่ำเสมอ
ข้อมูลนี้ถูกยืนยันจากงานวิจัยหลายโครงการระดับโลก เช่น PARTNER, HPTN 052 ไม่มีกรณีแพร่เชื้อผ่านเพศสัมพันธ์เลย ข้อความนี้ “ช่วยลดความกลัว” ได้มาก และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “ชีวิตใหม่” ของผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ในวันเอดส์โลกปีนี้ หลายองค์กรจึงเลือกจะเปลี่ยนจาก “ความกลัว” เป็น “ความจริงเชิงบวก”
ไม่ตีตรา: อุปสรรคใหญ่ที่สุดที่ต้องแก้ให้ได้
ปัญหาเอชไอวีในปี 2568 ไม่ได้อยู่อย่างเดียวที่ตัวไวรัส แต่มันอยู่ที่ “สังคม” และ “ความคิดของคน” การตีตรานำไปสู่:
ไม่กล้าไปตรวจ
ไม่กล้ารักษา
กลัวว่าจะถูกมองไม่ดี
ภาวะซึมเศร้า
เลือกปฏิบัติในหลายสถานที่
ไทยตั้งเป้าลดการตีตราให้ต่ำกว่า 10% ภายในปี 2573 และนี่คือสิ่งที่ยากกว่า ทั้งหมดต้องเริ่มจาก “ความเข้าใจ”
การเลิกตีตราจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นหัวใจของ สังคมที่เท่าเทียมกว่าเดิม
บริการฟรีในไทย: เข้าถึงง่ายกว่าที่คิด
หนึ่งในสิ่งที่ควรรู้ในวันเอดส์โลกคือ “บริการที่ไทยให้ฟรีจริง” ซึ่งมีผลอย่างมากในการเดินสู่ปี 2573
✔ ป้องกันฟรี
ถุงยาง
PrEP
PEP
✔ ตรวจฟรี
ตรวจ HIV ปีละ 2 ครั้ง
ชุดตรวจด้วยตัวเอง
✔ รักษาฟรี
ยาต้านไวรัส ARV
ให้คำปรึกษา
ติดตามผลสม่ำเสมอ
เส้นทางสู่ปี 2573 ของเป้าหมาย วันเอดส์โลก
ไม่ติด
ใช้ถุงยาง
PrEP สำหรับคนเสี่ยง
ตรวจเป็นประจำ
ไม่ตาย
รักษาเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
กินยา ARV ต่อเนื่อง
เข้าสู่ภาวะ “ตรวจไม่พบ”
ไม่ตีตรา
เข้าใจความจริง
ไม่ใช้คำพูดทำร้าย
บอกต่อข้อมูลที่ถูกต้อง
ทั้ง 3 เสาหลักนี้คือ “ทางด่วน” ที่พาประเทศไปสู่เป้าหมายปี 2573 ได้อย่างแท้จริง
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- อาการคนเป็นเอดส์ ระยะสุดท้ายเป็นอย่างไร? รู้เท่าทันเพื่อป้องกันและรักษา
- ยาต้านฟรี จริงหรือ? ไขข้อสงสัยที่หลายคนยังไม่รู้
สิ่งที่คุณทำได้ทันทีใน วันเอดส์โลก ปีนี้
เช็กตัวเองว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงไหม
นัดตรวจ HIV ปีละ 1–2 ครั้ง
ถ้ากลัวไปคลินิก ใช้ชุดตรวจที่บ้านได้
แนะนำเพื่อนหรือคู่รักให้รู้สิทธิ์
แชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง
สนับสนุนให้ใช้ถุงยางหรือ PrEP
ทุกการกระทำเล็ก ๆ มีผลต่อสังคมมากกว่าที่คิด
สรุป: วันเอดส์โลกปีนี้คือวันแห่งความหวัง วันเอดส์โลกไม่ใช่เพียงวันรณรงค์ แต่คือวันที่เราต้องเตือนตัวเองว่า… HIV ป้องกันได้ ตรวจได้ รักษาได้ และผู้ติดเชื้อมีชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้ การตีตราคือปัญหาที่เราต้องเลิกให้ได้ ปี 2573 ไม่ได้ไกลอย่างที่คิด และถ้าเราช่วยกัน “ไม่ติด–ไม่ตาย–ไม่ตีตรา” ก็จะกลายเป็นจริงได้อย่างแน่นอน
อ้างอิงข้อมูลจาก:
➡︎ วันเอดส์โลก กรมควบคุมโรค เร่งรณรงค์คนไทย รอบรู้สิทธิ-ป้องกันรอบด้าน
➡︎ สปสช. รณรงค์วันเอดส์โลก 2568 ‘ก้าวข้ามวิกฤต พลิกโฉมงานเอดส์’ สู่เป้าหมายยุติเอดส์อย่างยั่งยืน
➡︎ ผู้เชี่ยวชาญย้ำ! ไทยเข้าใกล้เป้ายุติเอดส์ 95-95-95 ชี้ต้องเร่ง “ป้องกันเชิงรุก” ลดผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างยั่งยืน




